กระตือรือร้นนิดๆ


 

ช่วงหลายวันก่อน
ฝนตกติดต่อกันหลายวัน
ถึงกับเซ็ง..
เราก็มีเรื่องให้เขียนถึงบ้าง
แต่สองสามวันมานี้
ไม่มี่ฝนซักหยด
ไม่มีบรรยากาศให้เราได้ระบายอะไรๆออกมาเลย
ก็เลยรู้สึกแปลกๆอยู่เหมือนกัน
ที่จริงไม่ใช่ไม่เขียน
ผมเขียนทุกวัน แต่เขียนไม่จบซักที
ไม่มีคำถาม ไม่มีคำตอบ
แต่ละวันเหมือนจบลงในตัวเอง
ตื่น เดิน นั่งรถ ทำงาน กลับห้อง นอน
เป็นวันทีไม่มีความน่าสนใจเอาเสียเลย
หลายคนมีชีวิตวนเวียนอยู่อย่างนี้
จนชินไปแล้ว..
แต่เหมือนชีวิตผมอยู่ได้
ด้วยปัจจัยบางอย่าง
ปัจจัยที่อยากให้ชีวิตอยู่ด้วยความหมาย
เกิดมาด้วยจุดหมาย
และจบลงด้วยจุดหมาย
แต่วันไหนที่เป็นเหมือนช่วงนี้
เหมือนชีวิตไม่มีความหมายยังไงไม่รู้
แต่นิสัยผมก็เหมือนเดิม ขี้สงสัย
แต่ไม่มีอารมณ์จะหาคำตอบ
หรือแม้แต่อารมณ์จะตั้งคำถามกับมัน


ที่จริงวันนี้ฝนก็ไม่ตก
แต่มันถึงจุดเบรคดาวน์ในอารมณ์
มันไม่มีคำถามมาหลายวัน
จนเกิดคำถามหนึ่งขึ้นมาในหัว
คำถามมันหายไปไหน
แต่จนแล้วจนรอดก็คิดไม่ออก
เรื่องที่คิดออกมีอย่างเดียวคือ
มันคงเป็นช่วงเวลาหนึ่ง
อาจจะสั้นหรือยาว
แต่มันก็เกิดขึ้น..
และกำลังดำเนินไป
เหมือนเรามองดูหนอนตัวหนึ่ง
ชีวิตมันช่างน่าเบื่อ
กิจวัตรอันซ้ำซาก
ตื่น ไต่ๆๆ กินใบไม้ แล้วนอน
แต่หนอนตัวนั้นมันก็ไม่พยายามทำอย่างอื่น
มันก็ยังไต่ๆๆๆ และกินใบไม้ต่อไป
วันแล้ววันเล่า..
มันก็หลับยาว..ในดักแด้
เราก็มองมันเหมือนกับว่าชีวิตหนอนตัวนั้นจบลง
แต่หนอนนั้นมันแค่กลับไปพัก
เราไม่รู้หรอกว่ามันคิดอะไรของมัน
แต่มันก็ไม่ได้เศร้า หรือดิ้นรนออกจากดักแด้นั่นเลย
มันยังรออยู่เงียบๆ
พอถึงเวลา..
มันก็สยายปีก
ออกบิน..
เมื่อก่อนมันอาจมีความฝันเล็กๆแบบที่หนอนพอจะฝันได้
เช่น ถ้าฉันโตขึ้นฉันจะใปกินใบไม้ที่สวยกว่านี้
อยู่สูงกว่านี้..
แต่เมื่อถึงเวลา สิ่งที่มันทำได้จริงๆนั้น
สุดยอดกว่าสิ่งที่ฝันไว้เยอะ
มันสามารถบินขึ้นไปถึงยอดไม้
เพื่อชิมน้ำหวานจากเกสรดอกไม้
มันเลือกได้แม้กระทั่งดอกที่งามที่สุด
บนต้นที่ใหญ่ที่สุด..


พอเรามองเห็นผีเสื้อ
เราอาจคิดอิจฉา
อิจฉาในเสรีภาพที่มันมี
แต่หากถามมันดู
มันอาจจะบอกว่า
ที่เธอเห็นฉันมีเสรีอย่างนี้
กว่าฉันจะได้ลิ้มรสความหวานของดอกไม้
เธอรู้ใหมว่า เกินครึ่งชีวิตฉันกินแค่ใบไม้
และแต่ละวันฉันเดินไปได้ไม่กี่ก้าว
แต่ฉันก็ไม่ได้พยายามที่จะกระโดดลงจากใบไม้
เพียงเพราะอยากรู้ว่าการบินได้มันเป็นอย่างไร
ฉันยังก้าวด้วยขาสั้นๆไปทีละก้าวทีละก้าว
อีกอย่างฉันก็ไม่เคยคิดจะกินดอกไม้
เพียงเพราะอยากรู้ว่ามันหอมรึเปล่า
แต่เมื่อถึงเวลาอันเหมาะสม
เมื่อมันเกิดขึ้น
ฉันแค่ขยับปีก ทุกอย่างก็เป็นไปอย่างที่ฉันคิด
แต่ฉันจะบอกอะไรอย่างหนึ่งนะ
สิ่งสำคัญเธอจะต้องพร้อมอยู่เสมอ
ทั้งร่างกาย และจิตใจ
เพราะฉันว่า ฉันคงแย่เหมือนกัน
หากวันนั้นฉันเกิดเบื่อใบไม้ขึ้นมา
แล้วหยุดกินซะเฉยๆ
ฉันว่าฉันคงไม่มีแรงที่จะบินเป็นแน่


จริงๆแล้วผมว่าทุกชีวิตที่เกิดมาบนโลก
ก็เป็นเช่นเดียวกัน
มีน่าเบื่อบ้าง
มีตื่นเต้นบ้าง
มันขึ้นอยู่กับว่าเราพร้อมรึเปล่า
ผมหมายถึงพร้อมรับมือสิ่งที่จะเกิด
โดยมี “ปัจจุบัน” เป็นตัวขัดเกลา
เพราะเมื่อ  “อนาคต” มาถึง
เราจะได้เอามันให้อยู่หมัด

ตอนนี้ผมนั่งจิ้มคีย์บอร์ด
ปวดขานิดๆเพราะกินหน่อไม้
ทีแรกยังนึกอยู่เลยว่าวันนี้จะเขียนเรื่องอะไร
แต่ก็ดั้นด้นมาได้จนจบ
ถึงเวลาทุกอย่างมันเป็นไปเองจริงๆ

ปล.เขียนโครงเรื่องนิยายไว้สองสามเรื่อง
ไม่มีเวลาเขียนบทเลย มันเซ็งตรงที่..
จะเขียนหนังสือจริงจังซักเรื่อง ทำไมมันยากนักน๊าา
เอาละลับฝีมือกับเรื่องไร้สาระแบบนี้ไปก่อนแล้วกันนะ

อ่านจบแล้ว ส่งข้อความมาทักทายกันได้ที่นี่ครับ

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.